ภาษาอังกฤษแบบเจ้าของภาษา 1 Will & Going to

Saturday 10 August 2013



ในตอนนี้เราจะมาอ่านโพสต์ที่นักเรียนต่างชาติเขียนภาษาอังกฤษเพื่อตอบคำถาม แล้วคุณครูเจ้าของภาษาก็ช่วยแก้ไขให้ภาษาที่ใช้เป็นธรรมชาติมากขึ้นกันนะคะ 

ด้านล่างนี้เป็นข้อความจากนักเรียนชาวเวียตนาม เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะทำในวันหยุด โดยการใช้คำกริยาช่วย Will และ Going to มาอ่านข้อความนี้กันก่อนนะคะ สมมุติว่านักเรียนชื่อหนูนานะคะ

หนูนา จาก Vietnam 
I'll have a holiday this weekend, so I'm going to visit my uncle in Hanoi with my mother. At my uncle's house, I'm going to help him with agriculture work. That is all of my plan. So now, I'll play a game to relax.

ตุณครู Nuala says:
Hi, 

What a good nephew you are to help your uncle when you're on holiday. 

You used different forms to talk about your plans 'going to' and 'will'. Well done. But in your first sentence the present simple might be better (for something that's timetabled, if it's a public holiday that's decided in advance, for example) 'I have a holiday this weekend' or 'I'm on holiday this weekend'. And in your final sentence, if you've planned to play the game, 'Now I'm going to play a game' sounds more natural. 

'I'm going to help him on his farm' sounds more informal than 'agriculture' or 'agricultural work'. And usually we'd say 'That's my plan' rather than 'That is all of my plan'. 

Don't work too hard now! Nuala 


เมื่อพูดถึงแผนการก็แสดงว่าเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น ถ้าพูดถึงอนาคต เราก็จะนึกถึง Future Tense แต่เราลองมาดูรายละเอียดกันดีกว่าค่ะว่า บางครั้งการพูดถึงอนาคตในภาษาอังกฤษก็มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป 

จุดที่ 1 การใช้ Present Tense กับ Future Tense

หนูนา:  I'll have a holiday this weekend.  (Future Tense)

คุณครู : I have a holiday this weekend. หรือจะใช้ว่า I'm on holiday this weekend' (Present Tense) ก็ได้ค่ะ  

หนูนาบอกว่าหนูจะไปเที่ยววันหยุดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทำไมเรารู้ว่าเป็นสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ก็เพราะการใช้ this weekend นั่นเองค่ะ คุณครู Nuala ก็เลยแนะว่า ถ้าอย่างนั้นแผนวันหยุดนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จะเกิดแน่ ๆ แล้ว และช่วงเวลาทีจะไปเที่ยวก็เป็นภายในอาทิตย์เดียวกับที่หนูนากำลังพูดอยู่ เพราะฉะนั้น เราควรใช้ Present Tense มากกว่า เพราะอะไรคะ คุณครูอธิบายว่า for something that's timetabled, if it's a public holiday that's decided in advance, for example  เราใช้ present tense กับเรื่องที่ได้กำหนดเวลาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว (That's timetabled.) หรือตัดสินใจไว้ล่วงหน้าแล้ว (That's decided) ตัวอย่างเช่น การวางแผนการล่วงหน้าสำหรับไปเที่ยววันหยุดแห่งชาติทั้งหลาย พอกำหนดวันเวลากับที่เที่ยวไว้เรียบร้อย ไม่เปลี่ยนแล้ว ก็ใช้เป็น present tense แทนที่จะใช้ future tense ส่วน future นั้นเป็นเรื่องของอนาคต อาจจะยังมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกนั่นเองค่ะ 

สรุปอีกที 
Present tense ใช้ได้กับแผนการในอนาคตอันใกล้ที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงอีก
Future tense ใช้กับแผนการในอนาคต ยังไม่แน่นอน เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน คิดได้ก็พูดขึ้นมาว่าจะไป แต่บางทีพรุ่งนี้อาจเปลี่ยนใจไม่ไปก็ได้ค่ะ
ความคิดเรื่อง Tense ของภาษาอังกฤษนี่ น่าปวดหัวจริง ๆ นะคะ แต่ว่าตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าเขาใช้แบบนี้ต่อไปเราจะได้ใช้ให้เป็นธรรมชาติแบบที่เจ้าของภาษาใช้กันนะคะ 

จุดที่ 2 การใช้ Will กับ Going to เป็น Future Tense ทั้งคู่

หนูนา: Now, I'll play a game.  

คุณครู : Now I'm going to play a game.   

ในประโยคนี้ หนูนาได้เขียนบอกหมดแล้วว่าแผนการวันหยุดจะทำอะไร หมดหน้าที่แล้วเพราะงั้นหนูจะไปเล่นเกมละนะ Now, I'll play a game. คุณครูก็แนะว่า  ถ้าตอนที่หนูนากำลังเขียนโพสต์นี้อยู่แล้วหนูนาก็วางแผนเอาไว้ว่าเขียนเสร็จแล้วฉันจะไปเล่นเกมล่ะ หนูนาควรใช้ว่า I'm going to play a game. (หนูกำลังจะไปเล่นเกม) เพราะว่า going to do sth ใช้กับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตที่คนพูดคิดไว้ในใจล่วงหน้า แต่คำว่า Will จะใช้เมื่อคนพูดตัดสินใจกะทันหัน คือพูดปุ๊ปก็ไปเล่นปั๊บ ไม่ได้คิดไว้ก่อนล่วงหน้า อ่านเรื่องของ Will กับ Going to ด้ในโพสต์นี้เลยค่ะ  

สรุปอีกที 
Will ใช้เมื่อผู้พูดคิดจะทำสิ่งหนึ่งโดยกะทันหัน ไม่ได้คิดล่วงหน้าว่าจะทำ
Going to + Verb ใช้เมื่อผู้พูดวางแผนว่าจะทำสิ่งหนึ่งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว  

เริ่มจะเข้าใจการใช้ will กับ going to ขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไม๊คะ เอิ่ม...หวังว่านะ....

จุดที่ 3 การใช้  Agriculture กับ Farm เป็นทางการ/ไม่เป็นทางการ

หนูนา: I'm going to help him with agriculture work

คุณครู : I'm going to help him on his farm  

ในประโยคนี้ หนูนาบอกว่า หนูจะไปช่วยคุณลุงทำงานเกษตร (agricultural work) คำว่า agriculture (n.) หรือ agricultural (adj.) แปลว่า "เกษตรกรรม" หรือ "เกี่ยวกับการเกษตร" ถ้าใช้ในการพูดมันก็เป็นคำที่เป็นทางการเกินไปค่ะ หนูนาไม่ได้เป็นนายกองค์การเกษตรกรโลก ก็ไม่ต้องใช้ภาษาที่เป็นทางการก็ได้ คุณครูเลยแนะนำว่าให้ใช้ farm (n.) แทน ก็แปลว่า "การเกษตร" เหมือนกันค่ะ ฟังแล้วค่อยเหมือนหนูนาไปช่วยลุงทำสวนทำไร่หน่อย คำชุดนี้ให้เอาไปใช้เป็นชุดเลยนะคะ on a farm ไปทำอะไรในสวน ในไร่ ในนา เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ได้หมดนะคะ 

 จุดที่ 4 การใช้ That's my plan 

หนูนา: That is all of my plan.  

คุณครู : That's my plan  

ในประโยคนี้ หนูนาสรุปว่ามีแผนกิจกรรมในวันหยุดทั้งหมดแค่นี้แหละค่ะ คุณครูก็แนะว่า หนูควรใช้ว่า That's my plan. นะจ๊ะมันจะดูเป็นธรรมชาติกว่า ถ้าเราอ่านเรื่องแผนวันหยุดของหนูก็จะเห็นว่า หนูนาวางแผนจะไปเที่ยวที่บ้านคุณลุงแล้วพอไปถึงก็จะไปช่วยลุงทำสวน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน หนูนาไม่ได้วางแผนจะไป ทะเล 3 วัน แล้วไปปีนเขาต่ออีก 2 วัน หลังจากนั้นไปตีกอล์ฟ พายเรือคายัค ดำน้ำดูปะการัง เรียนแต่งหน้า ทำสปาเท้า เพราะงั้นแค่บอกว่า นี่คือแผนของฉัน That's my plan. ก็เหมาะกับกิจกรรมของหนูนาแล้วค่ะ    

เป็นยังไงบ้างคะ ภาษาอังกฤษแบบที่เจ้าของภาษาเขาใช้กัน เมื่อเราารู้แล้วว่าแต่ละคำ แต่ละ Tense ใช้ต่างกันยังไง เราก็จะได้เอาไปใช้ได้อย่างเหมาะสม แล้วอย่าลืมตามไปอ่านโพสต์อื่น ๆ ด้วยนะคะ

ตัวอย่างได้มาจาก BBC Learning English: Grammar Challenge ค่ะ
This example is from BBC Grammar Challenge
คลิกแชร์ไปให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันบ้างนะคะ จะแสดงความเห็นหรือฝากคำถามไว้ด้านล่างได้เลยค่ะ

Copyright @ 2013 Basic English Lessons for Thais . Designed by Templateism | MyBloggerLab